Monday, June 15, 2009

บิเชีย หรือ ไบเคอร์

เจ้าปลาชนิดนี้ค่อนข้างน่าสนใจมากนะครับซึ่งเดี๋ยวผมจะบอกให้ทราบทีหลังนะ ครับ ไม่พูดพร่ำทำเพลงเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับสำหรับเจ้าบิเชียด้วยความที่บิเชียเป็นปลาที่มีลักษณะโบราณ และมีเอกลักษณ์อย่าชัดเจน ทำให้เป็นที่น่าสนใจในการศึกษาทางโครงสร้างและวิวัฒนาการของมัน ด้วยบิเชียมีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างไปจากปลากระดูกอ่อน และ พวกปลากระดูกแข็ง คือในส่วนของกระดูกแข็งนั้นพบว่ามีการค้นพบกระดูกออกเป็นจำนวนมาก และภายในลำไส้มี spiral valve และ spiracles 1 คู่ ซึ่งจะเป็นลักษณะเฉพาะของปลาในกลุ่มฉลามและกระเบน ทั้งยังมีเหงือกแบบพิเศษอยู่หลังตาแต่ละข้าง ซึ่งนับว่าค่อนข้างน่าทึ่งกับการพัฒนาในส่วนต่างๆของเจ้าบิเชีย อีกทั้งมันยังมีความพิเศษอีกอย่างคือสามารถปรับตัวให้มีชีวิตรอดในสภาพแวด ล้อมที่แห้งล้อมได้อีกด้วย ดูๆไปแล้วบิเชียเหมือนกับเป็นรอยต่อระหว่างปลาโบราณกับปลายุคปัจจุบันเลยบิเชียร์ เป็นปลาในอันดับ Polypteriformes ซึ่งมีปลาอยู่ในกลุ่มนี้เพียงแค่ ตระกูลเดียว คือ Polypteridae มีอยู่ด้วยกัน 17 ชนิด ลักษณะทั่วไปของปลาในกลุ่มนี้ เกล็ดเป็นแบบ ganoid รูปทรงข้าวหลามตัด (เดี๋ยวจะอธิบายรูปแบบของเกล็ดอีกทีนะครับ), หัวมีขนาดเล็กแต่กว้าง ช่วงลำตัว รวมกับส่วนอก (pelvics)มีลักษณะยาวเรียว คล้ายกับรูปทรงของงู รับกับครีบหาง, ส่วนอกนั้น มีครีบที่ค่อนข้างแข็งแรง มีลักษณะเป็นฐานพูเนื้อคลุมด้วยเกล็ด คอยช่วยยึดเส้นครีบทั้งหลายที่แผ่ออกมาเป็นแฉกๆเหมือนจานพังผืด(ส่วนนี้ทำ ให้ดูเหมือนว่าปลาบิเชียจะมีขา เหมือนกับปลาโบราณในกลุ่ม ซีลาแคนธ์ ซึ่งจะมีครีบเป็นแบบครีบเนื้อ ซึ่งครีบนี้มีความพิเศษคือมันสามารถใช้ในการเดินได้)., ในส่วนท้องจะมีถุงลม 2 ถุง ช่วยในการหายใจทำหน้าที่คล้ายกับปอด ถุงลมด้านซ้ายมีการพัฒนาน้อยกว่าด้านขวา (เหมือนในกลุ่ม Lung fish) ตั้งอยู่บริเวณช่องท้องโดยยึดติดกับหลอดอาหาร; โดยที่ทำงานร่วมกับเหงือก ทำให้พวกบิเชียสามารถอยู่โดยปราศจากน้ำได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง, ในชนิด Calamoichthys calabaricus (Reed fish) จะไม่มีส่วนท้อง, ส่วนหลังของปลาบิเชียจะมีชุดครีบ (finlets) ประกอบไปด้วย 5 - 18 ครีบ ซึ่งรวมกันเป็นครีบหลังของปลา แต่ละครีบนั้นจะมีแกนครีบเดี่ยว 1 แกน รองรับด้วยพังผืดเล็กๆในแต่ละครีบเกล็ดของปลาบิเชียนั้นเป็นลักษณะ เกล็ดแบบ ganoid ซึ่งเกล็ดแบบ ganoid นี้จะพบได้ในปลากลุ่มบิเชีย (Polypteridae),Bowfin (Amia calva), ฉลามปากเป็ด (Polyodontidae), การ์ (Lepisosteidae), และ สเตอร์เจียน (Acipenseridae) ซึ่งเกล็ดของปลาบิเชีย เป็นเกล็ดที่พบในปลามีกระดูกสันหลังในยุคแรก (เจอในฟอสซิลของ ปลา paleoniscoid). เกล็ดชนิดนี้จะมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และมีส่วนยื่นรับกับข้อต่อ ระหว่างเกล็ดแต่ละชิ้นบิเชีย นั้น มีการกระจายพันธุ์อยู่แต่ในแหล่งน้ำจืดในแอฟริกา ปลากลุ่มบิเชียนั้นบางชนิดมีความยาวได้เต็มที่ประมาณ 1.2 เมตร แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีขนาดประมาณ 30 ซม. 9 ใน 10 ชนิดของปลาบิเชีย จะพบแค่ใน แหล่งเก็บน้ำ Zaire (ในปลาบิเชียที่ยังเล็กนั้นจะมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากตัวเต็มวัยก็คือ เหงือกจะโผล่ออกมาเป็นกิ่งก้านสาขาคล้ายต้นไม้ให้เห็นออกมาภายนอกบริเวณแผ่น ปิดเหงือกด้านข้างลำตัว และจะค่อยๆหายไปเมื่อพวกมันโตขึ้น)การแยกเพศของปลาบิเชียสามารถแยกได้โดยดูลักษณะครีบก้น (anal fin) เพศผู้จะมี ครีบก้นที่มีขนาดใหญ่กว่าเพศเมีย การเพาะพันธุ์ทำได้ค่อนข้างยากในที่เพาะเลี้ยง ตัวเมียจะออกไข่ครั้งละ 300 ฟอง และตัวอ่อนจะออกจากไข่ภายในระยะเวลา 4 วันนับจากแม่ปลาวางไข่การเลี้ยงดูโดยปกติแล้ว บิเชีย เหมาะจะเป็นแทงค์เมทปลาอื่นๆได้เป็นอย่างดีเพราะมันเป็นปลาที่ไม่มีนิสัย ก้าวร้าวแต่อย่าใด (แต่ถ้าปลาที่เลี้ยงด้วยกันเล็กกว่าปากของบิเชียร์ ก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อของปลาบิเชียได้นะครับ) และด้วยเกล็ดที่มีความหนาและเหนียวทำให้มันสามารถทนการงับของปลาใหญ่เช่น อะโรวาน่าได้ การเลี้ยงเจ้าบิเชียนั้นควรทำที่หลบซ่อนให้มันด้วย และระดับน้ำควรลึกอย่างน้อย 1 ฟุต และควรมีฝาปิดตู้ด้วยครับ เพราะเจ้าบิเชียสามารถโดดได้เช่นเดียวกับปลาอื่นๆ อาหารการกินนั้น บิเชียสามารถกินได้ทั้งอาหารเม็ด และ ปลาเหยื่อ หรือสัตว์อะไรก็ตามที่เล็กกว่าปากมัน สามารถเขมือบได้หมด อาหารเม็ดนั้นผมให้อาหารชนิดจมดูท่ามันจะชอบเป็นพิเศษ

ทีนี้ลองมาดูข้อมูลแต่ละชนิดกันดูบ้างนะครับ
ตัวแรกก็ Reed fish
Erpetoichthys calabaricus Smith, 1865
โตเต็มที่ 90 ซม.
สภาพแวดล้อม pH range: 6.0 - 8.0; dH range: 5.0 - 19.0
อุณหภูมิ 22 - 28°C
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: Ogun River mouth in Nigeria to Chiloango River in Congo Brazzaville


Polypterus ansorgii Boulenger, 1910
Guinean bichir
โตเต็มที่ 28 ซม.
สภาพแวดล้อม pH range: -; dH range: -
อุณหภูมิ -°C
แหล่ง แพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: แม่น้ำ Corbal (Corubal) ใน Guinea Bissau และมีรายงานว่าพบใน ลุ่มน้ำ Niger basin ใกล้ Kouroussa ใน Guinea และในทะเลสาป Kainji และ แม่น้ำ Ogun ใน Nigeria


Polypterus bichir bichir (Lacepède, 1803)
Nile bichir
โตเต็มที่ 72 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; potamodromous (Ref. 51243); freshwater pH range: -; dH range: -
climate : tropical
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: แม่น้ำ Nile , ทะเลสาป Turkana และแม่น้ำ Omo ; ทะเลสาป Chad, แม่น้ำ Chari และ แม่น้ำ Logone


Polypterus bichir katangae Poll, 1941
โตเต็มที่ 46 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater pH range: -; dH range: -
climate : tropical
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ลุ่มน้ำ Congo
ยังหารูปไม่ได้นะครับ

Polypterus bichir lapradei (Steindachner, 1869)
Bichir
โตเต็มที่ 74 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater pH range: -; dH range: -
climate : tropical
แหล่ง แพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: พบในแม่น้ำ Senegal, แม่น้ำ Gambia , แม่น้ำ Geba , แม่น้ำ Volta ,แม่น้ำ Niger, แม่น้ำ Benoue และ แม่น้ำ Ou้m้. ทะเลสาป Chad และ Logone และแม่น้ำ Chari


Polypterus delhezi (Boulenger, 1899)
Barred bichir
โตเต็มที่ 44 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater pH range: -; dH range: -
climate : 26 - 28°C
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ลุ่มน้ำส่วนกลางของแม่น้ำ Congo


Polypterus endlicheri congicus (Boulenger, 1898)
โตเต็มที่ 97 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater ;pH range: -; dH range: - ;depth range 0 - 10 m
climate : -°C
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ลุ่มน้ำ Congo และทะเลสาป Tanganyika.


Polypterus endlicheri endlicheri (Heckel, 1847)
Saddled bichir
โตเต็มที่ 63 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; potamodromous ; freshwater ;pH range: -; dH range: - ;
climate : tropical
แหล่ง แพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: แม่น้ำ Nile , ลุ่มน้ำ Chad , แม่น้ำ Niger , แม่น้ำ Volta , แม่น้ำ Bandama , แม่น้ำ Comoé ตอนบน และ แม่น้ำ Ouémé


Polypterus ornatipinnis (Boulenger, 1902)
Ornate bichir
โตเต็มที่ 60 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater ;pH range: -; dH range: - ;
climate : tropical ; 26 - 28°C
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ลุ่มแม่น้ำ Congo (ประเทศ Congo, Angola, Cameroon) ; ทะเลสาป Rukwa ทะเลสาป Tanganyika


Polypterus palmas palmas (Ayres, 1850)
Shortfin bichir
โตเต็มที่ 30 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater ;pH range: 7; dH range: 10 ;
climate : tropical ; 26 - 28°C; 7°N - 10°S
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ลุ่มแม่น้ำใน Côte d'Ivoire ลุ่มแม่น้ำของ Liberia ตะวันออก ขึ้นไปถึง แม่น้ำ St. John


Polypterus retropinnis (Vaillant, 1899)
West African bichir
โตเต็มที่ 32.5 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater ;pH range:-; dH range: - ;
climate : tropical ; - °C;
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ช่วงกลางลุ่มแม่น้ำ Congo และ แม่น้ำ Ogooué


Polypterus senegalus meridionalis (Poll, 1941)
โตเต็มที่ 70 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater ;pH range:-; dH range: - ;
climate : tropical ; - °C;
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ลุ่มแม่น้ำ Congo ลงไปถึง Yangambi, รวมถึงแม่น้ำ Lualaba และ Katanga


Polypterus senegalus senegalus (Cuvier, 1829)
Gray bichir
โตเต็มที่ 50.5 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; potamodromous ; freshwater; pH range: 6.0 - 8.0; dH range: 5.0 - 19.0 ;
climate : tropical; 25 - 28°C
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ลุ่มน้ำ Nile และ แอฟริกาตะวันตก รวมไปถึง Senegal, Gambia, Niger, Volta ทะเลสาป Chad


Polypterus teugelsi (Britz, 2004)
โตเต็มที่ 41.5 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater; pH range: 7.4 - 7.5; dH range: 1.0
climate : tropical; 25 - 27°C
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: มีการพบในท้องถิ่น ในแม่น้ำ Cross
ชนิดนี้ไม่มีรูปให้ดูนะครับ

Polypterus weeksii (Boulenger, 1898)
Mottled bichir
โตเต็มที่ 54 ซม.
สภาพแวดล้อม demersal; freshwater; pH range: -; dH range: -
climate : tropical;
แหล่งแพร่กระจายพันธุ์ ทวีปแอฟริกา: ส่วนกลางของลุ่มแม่น้ำคองโก


หมดแล้วครับ
เครดิต คุณอีกาตัวดำๆ จากเวปพี่ต้น Rof ครับ
ที่มาครับที่คุณอีกาตัวดำๆ รวบรวมมาครับ
http://www.fishbase.org
http://www.polypterus.info
http://www.britannica.com
http://www.tiscali.co.uk
http://www.whozoo.org/Anlife99/eduardo/Bichir4.htm
http://www.encyclopedia.com
http://www.thetropicaltank.co.uk
http://badmanstropicalfish.com
http://www.practicalfishkeeping.co.uk
http://www.digimorph.org
http://forums.aquariumhobbyist.co
http://www.infoplease.com
และนี่ link ที่นำมาครับ http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board5&topic=29&action=view

No comments:

Post a Comment